“มท.ศักดิ์ดา” มอบ 40 รางวัลการบริหารจัดการขยะระดับประเทศ

“มท.ศักดิ์ดา” มอบ 40 รางวัลการบริหารจัดการขยะระดับประเทศ พร้อมกำชับจังหวัด อำเภอ อปท. ช่วยกันคิดและทำทุกวิถีทางให้ “ประเทศไทยปลอดขยะ” เพื่อส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว และให้คำชื่นชม-เชื่อมั่น “กลไกมหาดไทย” หลอมรวมพลังทุกภาคส่วน “ลดขยะตั้งแต่ต้นทางด้วยการแยกขยะ” เพื่อทำให้ปัญหาขยะหมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน .
วันนี้ (30 ต.ค. 68) เวลา 14.00 น. นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี 2568 พร้อมมอบนโยบายการบริหารจัดการขยะให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ ห้อง Grand Diamond Ballroom อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนภาคีเครือข่าย ร่วมในพิธี เป็นจำนวนมาก . นายศักดิ์ดา กล่าวว่า วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจจะเดินทางมามอบรางวัลด้วยตนเองแต่ติดภารกิจการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงได้มอบหมายให้ตนมาเป็นประธานแทน . “ในนามของรัฐบาล ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทั้ง 40 รางวัล ซึ่งการมอบรางวัลเป็นการมอบให้ผู้ชนะ ผู้แพ้จะไม่ได้รับรางวัล ดังนั้น ผู้ได้รับรางวัลเป็นผู้ที่ต้องความภาคภูมิใจ เพราะผู้ได้รับรางวัลทุกท่านต้องใช้ระยะเวลาในการสั่งสม บางคนสั่งสมมาหลายสิบปี โดยการประกวดรางวัลเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะ “จังหวัดสะอาด” ของกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ ถือเป็น “รางวัลแห่งคุณค่า” และเป็นการมอบรางวัลให้กับคนทำงานเบื้องหลังความสำเร็จ เพราะขยะเป็นปัญหาระดับโลกไม่ใช่แค่ของประเทศไทย และต้องยอมรับว่าทุกวันนี้สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเรายังคงอยู่ได้คือเรื่อง “การท่องเที่ยว” ถ้าเราไม่มีเรื่องการท่องเที่ยว เศรษฐกิจเราก็จะแย่ และแน่นอนว่า “การท่องเที่ยวและขยะอยู่คู่กัน” แต่เราต้องช่วยกันคิดและทำทุกวิถีทางให้ “ไม่มีขยะ” เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ดี” . นายศักดิ์ดา กล่าวอีกว่า ตนอยากชวนคิดว่า หากท่านผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. เข้าไปที่ศาลากลาง ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ที่บ้านพัก หรือที่ อบจ. อบต. เทศบาล หรือพื้นที่ท่องเที่ยว แล้วพบว่า มีขยะ มีถุงพลาสติกเต็มไปหมด ตนเชื่อว่าไม่มีใครอยากเข้าไปหรือเดินทางไป ถ้าไม่ได้กำจัดขยะเหล่านั้นให้หมดไปหรือลดปริมาณลงไปให้เหลือน้อยที่สุด นี่คือเป้าหมายของพวกเราที่ไม่ใช่เพียงข้าราชการ แต่คือสิ่งที่ “คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน” เพราะถ้าเราไม่มีขยะ บ้านเมืองเราก็จะสะอาด การท่องเที่ยวของเรา นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแน่นอน .
“ในเชิงนโยบายหรือทางวิชาการ แม้ว่าหน่วยงานเจ้าของเรื่องจะเป็นกรมในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่เจ้าของเรื่องจะทำแต่ลำพังไม่ได้ มันจะไม่สำเร็จ ดังนั้น กลไกการบริหารราชการ งานทุกเรื่อง งานทุกอย่าง กระทรวงมหาดไทยเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้นโยบายและการปฏิบัติประสบความสำเร็จ เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดสังกัดกระทรวงมหาดไทยและเป็นผู้มีอำนาจ มีกลไกในการควบคุมข้าราชการทั้งจังหวัด ดูแลนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทำให้เกิดการดูแลทุกข์สุขของประชาชน “เป็นผู้นำ” ในการหลอมรวมพลังของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ประชาชน” ทำให้การจัดการขยะประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การส่งเสริมผลักดัน “การลดขยะต้นทางจากการแยกขยะ” และทำทุกวิถีทางปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่มีขยะเพิ่มขึ้น หรือภาษาบ้าน ๆ เรียกว่า “ถ้าผู้ว่าฯ เอาด้วยก็สำเร็จ” ตนจึงดีใจที่ทางกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญกับเรื่องขยะ” ถ้าเราคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ขยะเปียกขยะย่อยสลายได้ก็ฝังดินหรือฝังกลบไว้ในพื้นที่รอบบ้านด้วยการทำ “ถังขยะเปียกลดโลกร้อน” นำถังมาตัดก้นถัง และขุดหลุมเป็นลิ่ม แล้วฝังลงไปให้ก้นหลุมลึกกว่าก้นถังแล้วปิดฝา ในส่วนขวดพลาสติกเราก็แยกออก รถขยะก็จะขนย้าย ทำให้ไม่มีน้ำหยดเวลาขนย้าย ตามถนนก็จะไม่มีกลิ่น” . นายศักดิ์ดา ยังได้สะท้อนถึงผลกระทบอันร้ายแรงของขยะประเภทโฟมและพลาสติกที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายถึง 500 ปี ซึ่ง “โฟมและพลาสติก” มีอยู่ทั่วตัวเรา ถ้าเราปล่อยให้มันล่องลอยไปแล้วไม่เก็บทิ้งให้ถูกต้องกระทั่งมันถูกพัดพาลงไปแม่น้ำลำคลอง ห้วย หนอง คลอง บึง ท้ายสุดก็จะลงไปสู่ทะเล ซึ่งจากรายงานข่าวของสื่อมวลชนทำให้เราทราบว่า ขยะทะเลมีมากกว่าปลาในทะเลและมหาสมุทรเสียอีก ซึ่งถ้าเอาขยะพลาสติกหรือโฟมที่ลอยตัวมารวมกันอาจจะใหญ่กว่าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ และมันจะค่อย ๆ ย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติก แล้วกลายเป็นอาหารของสัตว์น้ำในทะเล ทั้งหอย ทั้งปลา แล้วเมื่อมนุษย์กินเข้าไป ก็จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย มันก็จะกลายเป็นสารพิษเข้าสู่สมองของมนุษย์ หรือแม้แต่เต่าทะเลที่ล้มตาย เมื่อผ่าพิสูจน์ก็เห็นว่า เต่ากินพลาสติก กินโฟมเข้าไป ซึ่งจากงานวิจัยมากมายยืนยันว่า ขยะในทะเลไม่ได้เกิดจากการที่คนลงไปในเรือแล้วไปเที่ยวทิ้งเศษขยะในทะเล แต่มันเกิดจากขยะที่เกิดจากคนที่ดูบนบกบนแผ่นดินทิ้งแล้วไหลไปลงทะเลมากกว่า 90% . สำหรับพิธีฯ ในวันนี้ นายศักดิ์ดา ได้เป็นประธานมอบโล่รางวัลการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ประจำปี พ.ศ. 2568 รวม 20 รางวัล ประเภทกลุ่มจังหวัดต้นแบบการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนยั่งยืน (กลุ่มต้นแบบ) รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดสตูล ประเภทกลุ่มการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” (กลุ่มทั่วไป) กลุ่มจังหวัดขนาดใหญ่ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มจังหวัดขนาดกลาง รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดหนองคาย และกลุ่มจังหวัดขนาดเล็ก รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ . นอกจากนี้ ยังได้มอบรางวัลอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568ระดับประเทศ รวม 15 รางวัล โดยประเภทหนูน้อย อถล. อายุ 7 – 15 ปี รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ เด็กหญิงพัชราภา จุปะมัดตัง อถล. เทศบาลตำบลสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ประเภทเยาวชน อถล. อายุ 15 – 18 ปี รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางสาวศิริวรรณ ภารา อถล. เทศบาลตำบลชุมแสง จังหวัดระยอง ประเภทบุคคลทั่วไป อายุ 18 ปีขึ้นไป รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางสาวนัฐริกา มานะบุตร อถล. องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล จังหวัดภูเก็ต รวมถึงมอบรางวัล Carbon Credit Award จากโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2568 รวม 5 รางวัล รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ จังหวัดสระบุรี

ไม่มีความคิดเห็น