จังหวัดเลย เดินหน้าขับเคลื่อน อ.ส.ม.สู่สาธารณสุขยุคพัฒนา “อ.ส.ม. เชื่อมต่อเทคโนโลยีสู่ชุมชน” ยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ปี 2569

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมภูหลวง ชั้น 5 โรงพยาบาลเลย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย          นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 เป็นประธานเปิดงานโครงการขับเคลื่อนนโยบาย อ.ส.ม.สู่สาธารณสุขยุคพัฒนา "อ.ส.ม.เชื่อมต่อเทคโนโลยีสู่ชุมชน" อำเภอเมืองเลย  จังหวัดเลย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมี นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวต้อนรับ 

พร้อมด้วย นายชัยธวัช เนียมศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย           นายแพทย์ รวมพล เหล่าหว้าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย นายแพทย์ นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลย หัวหน้าส่วนราชการ  คณะผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 8  บุคลากรสาธารณสุข  และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เข้าร่วมกว่า 350 คน พร้อมถ่ายทอดสดออนไลน์ไปยังสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งในจังหวัดเลย

นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8  กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายเพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจและยกระดับบทบาทของ อ.ส.ม. ซึ่งถือเป็น “หัวใจของระบบสาธารณสุขไทย” ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ช่วยสาธารณสุขยุคใหม่ โดยตั้งเป้าพัฒนา อ.ส.ม. จำนวน 10,000 คนภายใน 4 เดือน ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศ เพื่อให้มีทักษะ ความรู้ และสมรรถนะในการดูแล ส่งเสริม และป้องกันปัญหาสุขภาพของประชาชนเชิงรุก สู่ระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ด้าน นายแพทย์รวมพล เหล่าหว้าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า  โครงการนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของระบบสุขภาพไทย ภายใต้นโยบาย “หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี” ที่มุ่งพัฒนา อ.ส.ม. ให้เป็น “สมาร์ท อ.ส.ม.” พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนได้รับบริการสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว เท่าเทียม ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และเพิ่มสวัสดิการรวมถึงรายได้ที่มั่นคงให้กับ อ.ส.ม. การจัดงานครั้งนี้มุ่ง ยกระดับ อ.ส.ม. ยุคใหม่ ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทผู้ช่วยสาธารณสุข เช่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ช่วยแพทย์แผนไทย ผู้ช่วยด้านการปรับพฤติกรรมสุขภาพ โดยเน้นสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานเชิงรุกในชุมชนอย่างมืออาชีพ

นอกจากนี้ อ.ส.ม. ยังมีบทบาทสำคัญในนโยบาย “รอบรู้ เพื่ออยู่อย่างมีคุณภาพชีวิต” โดยเน้นเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ การรู้เท่าทันปัญหา การจัดการสุขภาพอย่างเหมาะสม ซึ่งช่วยลดการเจ็บป่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน พร้อมเสริมสร้างระบบสุขภาพชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน