"นายกฯ อนุทิน" พบปะให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ลงพื้นที่ อบต.ชีน้ำร้าย จ.สิงห์บุรี

(10 ต.ค. 68) เวลา 17.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนากยรัฐมนตรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่ากากรกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวชีน้ำร้าย ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาในตัวอำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยส่วนตัว ชาวสิงห์บุรีและตนมีความใกล้ชิดและรู้จักกันมากพอสมควร “วันนี้เดินทางมาท่ามกลางความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม แม้จะสู้กับธรรมชาติไม่ไหว แต่ก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน โดยวันนี้ได้รับรายงานว่า จะมีวิธีการในการแก้ไขปัญหา โดยรัฐบาล มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลชีน้ำร้าย เพื่อให้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากน้ำท่วมหมดไป” นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลหนีความรับผิดชอบไม่พ้น ได้สั่งการและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนทุกวิถีทาง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชนในเขตจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่พิจิตร ชัยนาท สิงห์บุรี มีประสิทธิภาพที่สุด ได้ตั้งแนวทางว่าต้องทำให้ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนหมดไปให้เร็วที่สุด และทำให้ดีที่สุด ด้วยการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนชาวสิงห์บุรีให้เต็มที่ เบื้องต้นในสัปดาห์หน้า ครม. จะอนุมัติเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท นอกจากนี้ ได้มีการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 1,700 บาท เพื่อจับจ่ายใช้สอย และยังมีโครงการคนละครึ่ง พลัส ที่ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการต้องลงทะเบียน ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ จะมีระยะเวลาเข้าร่วมเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ทำให้คนไทยมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถจับจ่ายใช้สอยสะดวกขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินนโยบายที่ครอบคลุม ทั้งเรื่องพืชผลการเกษตร สาธารณูปโภค ความมั่นคง สาธารณสุข ซึ่งสิ่งสำคัญคือพี่น้องประชาชนต้องมีความแข็งแรง ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนรักษาสุขภาพ และร่วมให้กำลังใจกันและกัน รัฐบาลมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของพี่น้องประชาชนทุกคน