จากเด็กว่ายน้ำไม่เป็น สู่ตัวแทนทีมชาติไทยบนเวทีโลก “นิธิกร เจียมพิริยะกุล” วิทยาลัยศิลปศาสตร์ ม.รังสิต


จากก้าวเล็ก ๆ ของคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น

วันนี้กลับกลายเป็นจุดเริ่มของเส้นทางที่นำพาไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยที่ได้ลงแข่งขันบนเวทีโลก

เรื่องราวการฝึกฝน ความมุ่งมั่น และแรงบันดาลใจของเขา

คือบทพิสูจน์ว่าความเพียรสามารถพาเราไปไกลกว่าที่คิดไว้ นายนิธิกร เจียมพิริยะกุล

นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคและพัฒนาตัวเอง

จนได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำระดับนานาชาติ 20th World Aquatics Championships

2025 ณ ประเทศสิงคโปร์

ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของชีวิตนักกีฬาคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติและมหาวิทยาลัย

นายนิธิกร เจียมพิริยะกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น วิทยาลัยศิลปศาสตร์

มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ในวัยเด็กผมว่ายน้ำไม่เป็นเลย การฝึกฝนก็ไม่ได้ง่าย เหนื่อยและยาก

ต้องทุ่มเทและใช้เวลาเพื่อปั้นตัวเอง คงเป็นเพราะผมชอบและรักในกีฬานี้

จึงสามารถทำมันต่อเนื่องมาได้จนได้รับโอกาสดีๆ ให้ได้พิสูจน์ตัวเอง

ต้องขอบคุณครอบครัวที่เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ผมมุ่งมั่นเดินบนเส้นทางนักกีฬามาจนถึงวันนี้

“ก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยรังสิต ผมเรียนที่โรงเรียนหอวัง (ลาดพร้าว) สายศิลป์ภาษา เอกภาษาญี่ปุ่น

และเลือกศึกษาต่อในสาขาภาษาญี่ปุ่น วิทยาลัยศิลปศาสตร์

ด้วยเหตุผลที่ว่ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในระดับประเทศ มีความน่าเชื่อถือ

และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เลือกเรียนในหลากหลายสาขาตามความสนใจ


ผมประทับใจความอบอุ่น ความเป็นกันเอง บรรยากาศของทั้งที่คณะ และในชีวิตประจำวันที่ผมได้เข้ามาเรียน

ทุกอย่างเป็นกันเอง และผมก็มีความสุขในทุกๆ วัน ผมไม่เพียงเรียน และทำกิจกรรมบ้าง

แต่ผมยังได้เป็นส่วนหนึ่งของชมรมว่ายน้ำด้วยครับ ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันในนามมหาวิทยาลัย

รวมทั้งได้รับโอกาสเป็นผู้ช่วยสอนในรายวิชาว่ายน้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของผมครับ

เป็นความท้าทายที่จะต้องบริหารเวลา บริหารการเรียน การฝึกซ้อม ให้สมดุลกัน

ซึ่งในฐานะนักกีฬาความมีวินัยนั้นสำคัญที่สุด หากเราทำได้ทุกอย่างก็จะดำเนินไปควบคู่กันได้ทั้งหมด

ผมฝึกซ้อม ควบคุมอาหาร และก็พักผ่อน ปัจจัยสำคัญทั้งหมดนี้จะทำให้นักกีฬาทุกคนมีศักยภาพในทุกสนาม

สำหรับผมเองแมตซ์ระดับโลกที่สิงค์โปร์ เป็นประสบการณ์ที่จำไม่ลืมครับ ไม่ได้รางวัล แต่ได้ประสบการณ์

และยังได้ของแถมมาเป็นแรงกระตุ้นเพื่อจะที่ต้องพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้น

ผมเองก็ตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองไว้ครับ เพื่อที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอนาคต

และคว้าเหรียญทองมาให้ได้ครับ นอกจากความฝันในเส้นทางกีฬาแล้ว ในนามนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรังสิต

ผมก็เตรียมตัวที่จะเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่ประเทศญี่ปุ่น

ในแบบที่นักกีฬาต้องอาศัยวินัยในการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือ

นักภาษาก็ต้องอาศัยวินัยเช่นเดียวกันในการเรียนรู้และใช้ภาษาอย่างต่อเนื่อง ทุกคำที่ฝึก

ทุกประโยคที่กล้าสื่อสาร ล้วนเป็นพลังเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ พาเราเปิดโลกกว้าง เชื่อมโยงผู้คน และสร้างโอกาสใหม่

ๆ ได้เสมอ เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด

และการสื่อสารก็เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เราเติบโตในทุกก้าวของชีวิต

รวมทั้งตั้งเป้าหมายคว้าเกียรตินิยมในระดับปริญญาตรี เพื่อสร้างความภาคภูมิใจทั้งแก่ตัวเองและครอบครัว

สำหรับน้องๆ นักกีฬาที่มีความฝันนะครับ เพียงทุกคนพยายาม ฝึกฝน และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง อย่าท้อ

และอย่าละทิ้งความฝัน เพราะความสำเร็จจะเป็นของผู้ที่ไม่ยอมแพ้

การได้อยู่ในจุดที่บริหารจัดการทุกเรื่องได้เองนั้น ผมก็อยากขอบคุณมหาวิทยาลัย

วิทยาลัยศิลปศาสตร์ด้วยครับ ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่สถานศึกษา แต่เป็นเหมือนครอบครัวที่มีทั้งพี่ น้อง

และอาจารย์ที่พร้อมให้คำแนะนำและการสนับสนุน หากยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือถนัดด้านใด

ลองเปิดใจเข้ามาพูดคุยกับอาจารย์และรุ่นพี่ในรั้วรังสิต

เชื่อว่าทุกคนจะค้นพบเส้นทางที่ใช่สำหรับตัวเองเหมือนกันครับ”

ไม่มีความคิดเห็น